รีวิวกระดานโต้คลื่นโฟมรุ่น 500 Jeremy Smith 7 ฟุต
สิ่งที่สำคัญที่สุดในการเซิร์ฟหรือเล่นโต้คลื่นนั้นก็คือกระดานโต้คลื่น ดังนั้นเราจึงจะไม่สามารถทำกิจกรรมกลางแจ้งประเภทนี้ได้เลยหากขาดอุปกรณ์ที่ดี เพราะคงต้องยอมรับว่ามันเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้างท้าทายและต้องอาศัยความชำนาญในระดับหนึ่งเลยทีเดียวในการที่เราจะสามารถยืนบนกระดานแล้วทรงตัวอยู่บนคลื่นได้เป็นระยะเวลานาน สำหรับมือใหม่จึงจะต้องเลือกกระดานโต้คลื่นที่ช่วยให้การโต้คลื่นมีความง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้น โดยที่เราจะมาแนะนำในวันนี้เป็นกระดานโต้คลื่นโฟมรุ่น 500 Jeremy Smith 7 ฟุต มาในขนาด 7 ฟุต 8 นิ้ว ราคาอยู่ที่ 7,000 บาท ด้วยราคานี้เราจะได้สายโยงพร้อมกับครีบอีก 3 อันอีกด้วย
ตามที่เราบอกไปว่ามันคือกระดานโต้คลื่นโฟม ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับคลื่นขนาดเล็กที่ไม่เกิน 1 เมตรและคลื่นขนาดปานกลางที่ไม่เกิน 1.5 เมตร รวมไปถึงฟองคลื่น สำหรับคลื่นลูกใหญ่นั้นกระดานโต้คลื่นประเภทนี้อาจไม่เหมาะสมเท่าไรนักในเรื่องของความแข็งแรงและความทนทาน ปริมาณของกระดานโต้คลื่นอยู่ที่ 75 ลิตร น้ำหนักที่สามารถรองรับในตัวผู้เล่นได้ก็คือไม่เกิน 95 กิโลกรัม สามารถใช้งานได้ถี่ตามความต้องการ เหมาะสำหรับระดับการเล่นในระดับปานกลาง ด้วยความที่เป็นอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงที่จะเสียหายได้ง่ายดังนั้นจึงมีการรับประกันการใช้งานมาให้ยาวนานถึง 2 ปี ผู้ออกแบบก็คือ Jeremy Smith ด้านใต้ของกระดานโต้คลื่นนั้นจะเป็นสีฟ้าสดใสส่วน ด้านบนนั้นจะเป็นลายภาพกราฟฟิกสีสลับระหว่างสีฟ้าและสีโอรสที่ให้ความรู้สึกสดใสและฉูดฉาดช่วยให้คุณนั้นโดดเด่นบนคลื่นกว่าใครๆ ได้อย่างแน่นอน
กระดานโต้คลื่นโฟมรุ่น 500 Jeremy Smith 7 ฟุต มาพร้อมกับโครงสร้างที่ใช้แกนเป็นฉนวนโพลีสไตรีนและเพิ่มคานไม้อีกจำนวน 3 คันเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้กับกระดานโต้คลื่น จากนั้นก็ใช้เทคโนโลยีการเคลือบร้อนแบบใหม่นั่นก็คือการเคลือบแบบโพลีเอทิลีนที่ช่วยให้กระดานโต้คลื่นรุ่นนี้มีความแข็งแรงทนทานมากยิ่งขึ้นและสามารถป้องกันน้ำซึมเข้าไปได้เป็นอย่างดี ส่วนด้านล่างนั้นจะเป็นตัวโพลีเอทิลีนที่มีความหนาแน่นเป็นพิเศษและเคลือบ Wax เพื่อการลื่นก่อนการใช้งาน ดังนั้นมันจึงปลอดภัยต่อผู้ใช้งานอย่างแน่นอน สามารถประกอบได้ง่าย โดยตัวครีบนั้นใช้สกรูในขณะเดียวกันเพื่อประกอบได้เลย อย่างไรก็ตามควรตรวจสอบความแน่นของสกรูเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งาน แต่ด้วยความที่กระดานโต้คลื่นรุ่นนี้ใช้การเคลือบร้อนดังนั้นมันอาจจะไม่ค่อยทนอากาศร้อนเท่าไหร่นัก หากใช้งานกลางแจ้งเป็นเวลาติดต่อกันค่อนข้างนานหรือวางตากแดดทิ้งไว้อาจส่งผลให้ฉันที่เคลือบได้รับความเสียหาย ดังนั้นมันจึงควรเก็บในพื้นที่ที่ไม่โดนแสงแดดจะช่วยยืดอายุการใช้งานออกไปได้เป็นระยะเวลานานหลายปี